วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2552

ความทรงจำครั้งวันวาน

การศึกษาของผม
ในระดับประถมศึกษา
- ผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนชุมชนบ้านพิมาน ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม
ความประทับใจในตอนนั้น
- ในสมัยเด็กนั้นผมก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่นักก็มีความประทับใจแบบเด็ก ๆ เท่าที่จำได้ก็มีอยู่ว่า
1.ได้เป็นนักกีฬาของโรงเรียน ซึ่งมันเป็นความภาคภูมิใจมากในตอนนั้น เพราะว่าการที่ได้เป็นนักกีฬารู้สึกว่ามันเท่ห์ ผมเริ่มเป็นนักกีฬาตั่งแต่ผมเริ่มอยู่ชั้น ป.4 ผมเล่น ฟุตบอล วอลเล่ย์บอล และก็วิ่ง
- ฟุตบอล ในตอนนั้นถือว่าโรงเรียนของผมครองอันดับ 1 มาตลอดจนผมจบชั้น ป.6 ทีมโรงเรียนของผมครองอำนาจวงการลูกหนังในตอนนั้น ที่พูดมาอย่าหาว่าผมโม่นะครับ และอีกอย่างผมลงเล่นเป็นตัวจริงด้วย กว่าจะได้เป็นตัวจริงต้องมีการแข่งขันทางความสามารถและกาฝึกซ้อม พวกผมลุกขึ้มาฝึกซ้อมประมาณ ตี 4.30 ทุกวัน ถ้าไม่ไปก็จะไม่ได้ลงเล่น
- วอลเล่ย์บอล ผมเริ่มเล่นวอลเล่ย์บอลตั่งแต่ผมอยู่ ป.1 ผมฝึกมาเรื่อย ๆ จนผมอยู่ชั้น ป.4 ผมก็ได้เล่นให้กับทีมโรงเรียน วอลเล่ย์บอล ผมได้เล่นในตำแหน่งตัวตั้งบอลเพราะว่าผมเป็นคนตัวเล็ก และวอลเล่ย์บอลโรงเรียนผมก็ครองความยิ่งใหญ่เหมือนกันครองอันดับ 1 มาตลอด แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังงัยเหมือนกัน
2.ได้เป็นนักดนตรีไทยไปแข่งขันที่ จ.ยโสธร
ตอนผมอยู่ชั้น ป. 4 ครูได้สอนการเล่นดนตรีไทยให้กับพวกผม ในตอนนั้นคือ ป. 4 ทุกคนได้เล่นดนตรีไทย พอเล่นได้เป็นกันทุกคน ก็ได้เป็นตัวแทนของจังหวัดไปแข่งขันที่ จ.ยโสธร ในตอนนั้นมันดีใจมากไม่เคยไปแข่งขันแบบนี้มาก่อน ในการแข่งขันตอนนั้นมีตัวแทนจากทุกจังหวัดของภาคอีสานมาแข่งขัน โรงเรียนผมได้อันดับที่ 2 ผมดีใจมากไม่นึกว่าจะได้ถึงอันดับนี้

ในระดับมัธยมศึกษา
- ม.ต้น (ม.1 - ม.3)
ในระดัโรงเรียนใหม่ก็เรียบร้อย ขยันเรียน แต่พอขึ้น ม.2 เริ่มรู้อะไรหลายอย่างขึ้น ตอนนั้นรู้สึกว่า PLAY 1 กำลังมาใหม่เป็นที่นิยมของนักเรียน มีวันหนึ่งใกล้จะสอบปลายภาคอยู่แล้ว เพื่อนชวนออกไปเล่นเกมส์ที่ร้านข้างนอก ผมก็ไปกับพวกเขา พอหนีออกไปนอกโรงเรียนได้สักพัก มีอาจารย์ขี่รถมาทางเดี่ยวกันกับทางที่พวกผมเดินหนีไป ผมไม่รู้จะทำยังไงเลยพากันวิ่งหนี ถึงจะมีรั่วลวดหนามขวางไว้สูงแค่ไหนผมก็กระโดดข้ามได้อย่างสบาย เพราะว่าตอนนั้นไม่คิดอะไรแล้วต้องหนีอย่างเดี่ยว ไม่ให้อาจารย์รู้ชื่อ เลยวิ่งไปทางทุ่งนาเข้าด้านหลังโรงเรียน ในตอนนั้นมันกลัวมากต่อไปจะไม่ทำอีกแล้วบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นนั้นในความเป็นเด็กก็ยังมีอยู่บ้าง
- ม.ปลาย (ม.4 - ม.6)
เมื่อขึ้นม.ปลายผมเรียนที่โรงเรียนเดิม ในตอนนั้นรุ่นของผมมีห้องทั้งหมด 3 ห้อง แบ่งเป็นสายวิทย์ 2 ห้อง สายศิลป์ 1 ห้อง ผมเรียนสายวิทย์อยู่ห้อง 2 มีนักเรียนทั้งห้อง 25 คน ซึ่งมันกำลังดีไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไป ผมก็เรียนอย่างมีความสุข ผมเสียดายโอกาสในตอนขึ้น ม.4 ที่อาจารย์ให้เรียน รด. แต่ผมไม่เรียนชวนกันหนีไม่ไปตรวจร่างกายพอจบ ม. 6 ไปก็เลยรู้ซึ้งว่าถ้าเราเรียนก็คงไม่ต้องไปเกณฑ์ทหารแล้วคงสบายแล้ว มันเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของผม ผมเลยมาเรียนครูคณิตศาสตร์ที่มหาสารคาม คือถ้าผมสอบบรรจุได้ผมก็จะไม่ได้เป็นทหาร ผมเลยเลือกเรียนครูและผมชอบเรียนคณิตศาสตร์มากก็เลยเลือกครู

โรงเรียนของผม



ลิ้งค์โรงเรียนผม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น